โฟกัสวัตถุประสงค์ของห้องเพื่อเลือกเฟอร์นิเจอร์ได้ตอบโจทย์ที่สุด
ลองจิตนาการว่าคุณอยากตื่นนอนตอนเช้าด้วยวิวแบบไหน และไปแต่งตัว ทานอาหาร หรือทำกิจกรรม
อะไรตรงไหนอาจจะช่วยให้คุณคิดออกว่ามุมไหนควรจะใส่เฟอร์นิเจอร์อะไร ที่ต้องจินตนาการกิจกรรม
ในห้องเข้ามาช่วยเพราะ นอกจากไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนไม่เหมือนกันแล้ว แบบห้องก็ไม่เหมือนกัน
คนที่มีห้องแบบแบ่งสัดส่วนมาแล้วอาจจะง่ายกว่าแบบ Studio ซึ่งแบบสตูดิโอจะให้อิสระในการตกแต่ง
สูงกว่า แต่เพื่อการใช้งานได้จริง ควรระบุว่าใน 1 ห้อง อยากให้มีมุมที่ทำอะไรได้บ้างเช่น ห้องนอนอยาก
ให้มีโต๊ะทำงานหรือไม่ หรือเลือกมุมแต่งตัวไว้ตรงไหน เพื่อเลือกเฟอร์นิเจอร์ได้ตรงตามการใช้งานจริง
ได้ดีที่สุด
วัดพื้นที่ถือแปลนห้องแบบมีสเกลไปด้วย
เพื่อความรวดเร็วและแม่นยำ บางคนที่ซื้อของชิ้นเดียว หรือเป็นสินค้าแบบน๊อคดาวน์ อาจจะแค่
วัดพื้นที่ไปก่อนเพื่อกำหนดว่าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นที่อยากได้ สามารถวางในตำแหน่งที่ต้องการได้หรือไม่
วัดความกว้างและความยาวแล้ว ก็อย่าลืมวัดความสูงด้วย เพื่อให้เหมาะต่อการใช้งานจริงๆ
ว่าจะไม่ติดขัดเวลาใช้งาน ส่วนใครที่เป็นห้องเปล่า ต้องการแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ครบชุด ไม่ว่าจะเป็น
บิล์ทอินหรือไม่ก็ตามควรพกเอาแปลนห้องแบบมีสเกลไปด้วยเพราะจะได้เช็คระยะได้ว่าสามารถวาง
เฟอร์นิเจอร์ชิ้นที่ต้องการได้หรือไม่ ที่สำคัญร้านเฟอร์นิเจอร์หลายๆ ที่ก็มีบริการออกแบบห้องให้ฟรี
เพียงแค่มีแปลนเราก็จะเห็นภาพชัดขึ้นและยังสามารถดูได้ถึงขั้นตอนงานติดตั้งว่าสามารถเจาะยึดผนัง
ด้านไหนได้บ้าง (หากจำเป็นต้องเจาะผนัง)
มีรูปแบบที่ชอบมีงบประมาณที่ใช่กำหนดทุกอย่างไว้แล้วทำให้ความคิดไม่ไขว้เขว
ถ้าคิดจะแต่งห้องสิ่งแรกๆ ที่ควรมีคือแบบที่ชอบ ไม่ว่าจะสไตล์ของห้อง สีเฟอร์นิเจอร์ วัสดุหรือ
ผิวสัมผัสแบบที่ชอบ ยิ่งถ้ามีรูปภาพแบบที่ชอบไปให้ทางร้านดูได้ จะจบงานได้ไวขึ้น เพราะไม่ต้อง
มัวหาสไตล์ เหลือแค่การเลือกทุกอย่างให้ลงกับงบประมาณที่กำหนดไว้ และช่วยให้เลือกของตกแต่ง
อื่นๆที่เหลือได้ง่ายขึ้นด้วย
Multifunctionช่วยประหยัดพื้นที่ เฟอร์นิเจอร์ 1 ชิ้นปรับใช้ได้หลายแบบย่อมดีกว่ากับพื้นที่จำกัด
เพราะพื้นที่คอนโดส่วนใหญ่เป็นพื้นที่จำกัด นอกจากการใช้พื้นที่แนวดิ่งให้เป็นประโยชน์แล้ว
การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถปรับการใช้งานได้มากกว่า 1 อย่าง ยังช่วยให้ประหยัดพื้นมากขึ้น
เช่น การมีลิ้นชักใต้เตียง การปรับขนาดโต๊ะทานอาหารและพับเก็บเมื่อไม่ใช้งาน หรือการทำให้
ช่องว่างต่างๆ เป็นที่เก็บของไปนอกจากห้องจะดูไม่รกแล้วยังเพิ่มกิมมิคให้กับห้องด้วย
นึกถึงการใช้งานจริงเสมออย่าเลือกแค่สวย แต่ให้นึกว่าใช้งานจริงๆ จะเป็นอย่างไร
บางคนเห็นแค่รูปร่างและสีสันของเฟอร์นิเจอร์และวัดขนาดแล้วเอามาวางได้ก็ตัดสินใจซื้อทันที
โดยไม่ได้คิดถึงตอนใช้งานจริงว่าเหมาะสมหรือไม่ เช่น ซื้อเก้าอี้ปรับเอน (รีไคลเนอร์) โดยไม่เว้น
ระยะด้านหลังให้สำหรับการปรับเอน การซื้อเตียงนอนมีลิ้นชัก แต่ซื้อผิดฝั่งต้องหันลิ้นชักเข้าไป
ติดกับผนัง เรื่องเหล่านี้ทำให้คุณไม่ได้ใช้งานของที่ซื้อมาอย่างเต็มประสิทธิภาพ หรือต้องเสียเวลา
และค่าใช้จ่ายในการขอแก้ไขหรือเปลี่ยนสินค้าอีกด้วย
คิดเรื่องขนส่งและการติดตั้งเสมอ เช็คขนาดลิฟต์และวงกบประตูไปปลอดภัยที่สุด
บางคนอาจเคยเจอปัญหานี้ คือทำแบบห้องสมบูรณ์หมดแล้วแต่ลืมคิดถึงการขนส่งและติดตั้ง
เรื่องหลักๆ ที่คุณต้องคำนึงถึงคือประตูและขนาดลิฟต์ขนของตึกที่คุณอยู่มีขนาดเท่าไหร่
เพียงพอที่จะเอาเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นใส่เพื่อขนย้ายเข้ามาที่ห้องคุณหรือไม่ หากคุณไม่ทราบ
สามารถขอขนาดจากทาง นิติฯ ก่อนก็จะปลอดภัยที่สุด หากว่าประตูเล็กเกินไปหรือพอดีมากๆ
จะได้มีการแจ้งผู้ขายก่อนเพื่อหาทางเลือกใหม่ในการขนย้าน เพื่อป้องกันรอยจากการขนย้ายนั่นเอง
และคุณต้องคิดต่อด้วยว่าอนุญาตให้มีการขนย้ายและติดตั้งวัน-เวลาใดบ้าง รวมไปถึงตำแหน่งปลั๊กไฟต่างๆ
ภายในห้องหากมีการนำเฟอร์นิเจอร์เข้ามา อาจจะต้องมีการย้ายตำแหน่งปลั๊กไฟ คุณสามารถปรึกษา
กับร้านเฟอร์นิเจอร์หรือนิติฯ ของคอนโด เพื่อเตรียมการให้เรียบร้อย
ถามอายุการใช้งานและการรับประกันรับประกันอะไรบ้าง เรื่องต้องรู้ก่อนเสียรู้
เฟอร์นิเจอร์แต่ละแบบจะมีอายุการใช้งานและวิธีการดูแลรักษาไม่เหมือนกัน ในตอนซื้อให้ถาม
พนักงานขายถึงเรื่องนี้เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ดูใหม่อยู่เสมอด้วย และบางชิ้นอาจะมีการรับประกันสินค้า
ควรถามรายละเอียดว่ารับประกันจุดไหนในสินค้านั้นๆ บ้างเพื่อจะได้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้งาน